4วิธีแก้บ้านเหม็นเพราะเลี้ยงแมวระบบปิด

ยุคสมัยเปลี่ยนการดำรงค์ชีวิตก็เปลี่ยน คนเมืองเหงาๆก็อยากมีเพื่อนสี่ขาขนฟูอยู่ด้วย แต่พอเลี้ยงไว้ในบ้านปัญหาชวนปวดหัวก็เกิด เพราะน้องแมวเข้าส้วมแบบคนไม่เป็น กดชักโครกก็ไม่ได้ เดือดร้อนต๊าดต้องอดทนต่อกลิ่น อึ-ฉี่ ที่ดมนานๆจะพาลปวดหัว อย่าเพิ่งท้อใจไปเพราะทุกปัญหามีวิธีแก้

ถ้าคุณเป็นต๊าดแมว และเลือกที่จะเลี้ยงแมวระบบปิด คุณมาถูกทางแล้วค่ะ เพราะการเลี้ยงแมวระบบปิดเป็นวิธีที่จะจำกัดปัญหาในการเลี้ยงแมวได้หลายปัญหาเลยค่ะ เช่น ลดการเกิดโรคติดต่อในแมว ลดปัญหาเรื่องความสะอาดของขนและผิวหนัง ลดปัญหากับเพื่อนบ้านที่เกิดจากความซุกซนไม่ถูกที่และการขับถ่ายไม่ถูกทางของเจ้าเหมียว การเลี้ยงแมวระบบปิดอาจจะดูเหมือนเป็นการกักขังอิสระภาพของแมว แต่ถ้ามองมุมกลับการปล่อยให้เจ้าเหมียวอิสระนอกบ้านก็เหมือนปล่อยให้ลูกรักไปเสี่ยงอันตราย เพราะ แมวก็เหมือนเด็กเล็ก ทำสิ่งต่างๆตามสัญชาตญาณ และความต้องการโดยเค้าไม่รู้ว่าอาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนได้ เช่น อยากนอนที่สูงก็เลือกไปนอนบนหลังคารถเพื่อนบ้าน ปวดอึปวดฉี่ก็ขับถ่ายในกระถางต้นไม้บ้านตรงข้าม อย่าลืมนะคะ ทุกคนไม่ได้รักและเมตตาแมวเหมือนเหล่าต๊าดเสมอไป ดังนั้นการดูแลแมวระบบปิด ก็ช่วยลดปัญหาที่จะตามมาได้อีกเยอะเลยค่ะ

แต่!!! พอเลี้ยงไว้ในบ้าน กลิ่น อึ ฉี่ ก็ หึ่งทั้งบ้านเลยจร้า คราวนี้เพื่อนบ้านไม่ปวดหัวแต่กลายเป็นต๊าดปวดหัวซะเอง ยังไงหล่ะทีนี้ ใจเย็นๆค่ะ ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ดูก่อน……

ขั้นแรกเลยต้องสำรวจที่มาของกลิ่นกันก่อนค่ะ กลิ่นเหม็นจากการเลี้ยงสัตว์ต้องมีที่มาค่ะ ต๊าดต้องลองสังเกตุแล้วหล่ะค่ะว่ากลิ่นมาจากจุดใด จะเป็นกลิ่นจากความอับชื้นที่ตัวเจ้าเหมียว กลิ่นเหม็นจากอึ-ฉี่ หรือ บ้านที่อับชื้นกันแน่นะ เมื่อเราเจอต้นตอแล้วเราก็เริ่มแก้จากจุดนั้นค่ะ


1. ถ้าเป็นกลิ่นจากตัวเจ้าเหมียว ต๊าดต้องตรวจเช็คสุขภาพผิวหนังของเจ้าเหมียวแล้วหล่ะค่ะ ว่ามีปัญหาผิวหนังอักเสบ หรือ เจ็บปวดจุดไหนหรือไม่ เพราะ แมวเป็นสัตว์รักสะอาด กรูมมิ่งตัวเองตลอดถ้าเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ ตุ ตุ อาจจะต้องพาไปอาบน้ำและดูและสุขภาพขนและผิวหนังบ้างแล้วหล่ะค่ะ ตัวแมวอับชื้นอาจเกิดจากการไปแอบนอนในห้องน้ำ หรือ พื้นเปียกๆ หรือแม้กระทั่งการที่เราอาบน้ำให้แมวแล้วไม่ได้เป่าให้แห้ง ก็อาจะส่งผลให้ผิดหนังติดเชื้อรา จนเปิดเป็นกลิ่นเหม็นอับชื้นได้ค่ะ อันนี้ ต้องคอยดูแลให้ดีนะคะ หากป่วยแล้วก็ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อไปค่ะ


2. ถ้ากลิ่นมาจาก อึ-ฉี่ อันนี้ต๊าดต้องหาแหล่งที่มาค่ะ ว่าเป็นเพราะกระบะทรายไม่สะอาด ทรายแมวเสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ ถ้าเป็นจากจุดนี้ ต๊าดต้องหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายแมวบ่อยๆและเปลี่ยนทรายแมวให้เป็นของใหม่ที่มีประสิทธิภาพเสมอๆ ก็จะช่วยลดกลิ่นเหม็นรบกวนได้มากเลยค่ะ ทรายแมวก็เป็นส่วนสำคัญนะคะ หากต๊าดเลือกทรายแมวแบบทิ้งชักโครกไม่ได้ ต๊าดก็จะต้องดูแลถังขยะและที่ทิ้งให้สะอาดอยู่เสมอด้วยนะคะ แต่สำหรับในปัจจุบันนั้นมีทรายแมวที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหลากหลายรูปแบบที่สามารถทิ้งลงชักโครกได้ เป็นวิธีกำจัดของเสียแบบถูกสุขลักษณะ หมดปัญหาเรื่องกลิ่น และเชื้อโรค ต่างๆ ต๊าดต้องลองเลือกมาให้เจ้าเหมียวใช้กันดูแล้วหล่ะค่ะว่าแบบไหนจะถูกใจเจ้าเหมียว

“ทริกเล็กๆในการเลือกทรายแมว แคทเพอรี่แนะว่า อย่าเลือกเพียงเพราะ ราคาถูกอย่างเดียว แต่อยากให้ลองใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติม ถึงวิธีใช้ร่วมด้วย เพราะ ทรายแมวบางประเภทอาจจะมีราคาสูงแต่เมื่อใช้แล้วมีวิธีประหยัด หรือไม่ต้องเปลี่ยนทิ้งทั้งกระบะ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองที่เรามองข้าม พอคำนวนแล้วอาจจะประหยัดเงินต๊าดได้มากกว่าทรายที่ราคาถูกแต่ต้องเปลี่ยนทิ้งบ่อยๆ”

3. บางครั้งกลิ่นฉี่แมว ก็ไม่ได้มาจากกระบะทรายที่ไม่สะอาดเสมอไปนะคะ ต๊าดคนไหนเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวผู้ในวัยเจริญพันธ์จะเข้าใจดี เพราะ พอเหมียวเข้าสู่วัยรุ่นจะมีพฤติกรรมการ
สเปรย์ฉี่ ตามจุดต่างๆ เพื่อจับจอง แสดงความเป็นเจ้าของ และสร้างอาณาเขตของตัวเอง ถ้าเจ้าเหมียวบ้านไหนเข้าวัยโจ๋ ต๊าดอาจจะต้องพาไปทำหมั่นเพื่อปรับพฤติกรรมนี้ได้ค่ะ แต่บ้านไหนที่ยังไม่อยากตัดรอนความเป็นหนุ่มของเจ้าเหมียว อันนี้ต๊าดต้องหาสเปรย์ดับกลิ่น มาฉีดและหมั่นเช็ดทำความสะอาด เฟอร์นิเจอร์แทนแล้วหล่ะค่ะ

4. นอกจากข้อแนะนำที่ว่ามา แล้วต๊าดก็ต้องหมั่น ทำความสะอาด และเปิดบ้านให้อากาศถ่ายเทเพื่อให้ไม่เกิดการหมักหมมของเชื่้อโรคอันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้นต่างๆด้วย อ้อ…บางบ้านที่มีกำลัง ลองมองหาเครื่องฟอกอากาศมาไว้ก็ได้นะคะ เจ้าเครื่องมือเหล่านี้ก็ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นได้ดีค่ะ

4 วิธีง่ายๆที่แคทเพอรี่เชื่อว่าต๊าดแมวทำได้ ลองนำมาปรับใช้ดูนะคะเพียงเท่านี้เหล่าต๊าดก็จะลดปัญหาบ้านเหม็นจากการเลี้ยงแมวระบบปิด ได้แล้วหล่ะค่ะ

Leave a Reply